พฤติกรรมลูกสุนัขแรกเกิด

น.สพ.ทศพร นักเบศร์

เรื่องพฤติกรรมของหมา มีให้คุยกันไม่รู้จบครับ เพราะเราพยายามที่จะอยู่กับสัตว์เลี้ยงที่น่ารักของเราให้เข้ากันได้มากที่สุด จึงเป็นเรื่องที่ต้องทำความเข้าใจกันว่า หมา
ทำอย่างนี้เพื่ออะไร และเราจะยอมรับได้หรือไม่ ต้องถามตัวเองเสมอครับ
รู้และเข้าใจหมาอยู่รับใช้ท่านมาเกือบสองปีแล้วครับ เราคุยกันหลายเรื่อง และวันนี้ เราจะคุยเรื่องที่น่าสนใจอีกอย่าง สำหรับท่านที่เลี้ยงหมาโดยตรง คือ พฤติกรรมของ ลูกหมาแรกเกิด จนถึงระยะที่พัฒนาเป็นหมาโต เราต้องเข้าใจครับว่า การที่หมาแสดงอาการ แสดงพฤติกรรมใดๆ ออกมา มันขึ้นกับว่า หมานั้น มีระบบประสาท ในการรับรู้ความรู้สึกอย่างไรด้วยครับ ทำไมถึงต้องเขียนเรื่องนี้ เนื่องจากว่า ในขณะนี้ มีท่านที่เลี้ยงหมาหลายท่าน มีปัญหาไม่เข้าใจว่า ลูกหมาที่เราเลี้ยงอยู่นั้น มีพฤติกรรมอย่างไร เมื่อไม่รู้ว่าเป็นอย่างไร ปัญหาที่ตามมาคือ ความวิตกกังวล เนื่องจากว่า ไม่มั่นใจว่าอาการที่ลูกหมาเล็กๆ แสดงออกนั้น ผิดปกติหรือไม่ อย่างไร เรามาอ่านไปพร้อมๆ กันครับ ว่า พฤติกรรมลูกหมาที่แรกเกิด จนถึงระยะที่มีการเปลี่ยนแปลงเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์ เป็นอย่างไร

พฤติกรรมหมาแรกเกิด จนถึงอายุ 2 สัปดาห์
ก่อนอื่นต้องเข้าใจก่อนครับว่า เมื่อแรกเกิดนั้น ลูกสุนัขมีระบบประสาท ที่รับความรู้สึกอย่างไร
ลูกหมาที่เกิดใหม่ ๆ พอออกจากท้องแม่มา จะยังไม่ลืมตานะครับ เพราะฉะนั้นมันจะมองไม่เห็น มีหูแต่ก็ยังไม่สามารถที่จะได้ยิน เพราะรูหูยังปิดอยู่ ดังนั้น ท่านจะตะโกนเรียก หรือใช้เสียงปรบมือดังขนาดไหน ก็ไม่ได้ยิน แล้วมันใช้อะไรในการรับรู้ความรู้สึกใช่ไหมครับ ระบบประสาทรับความรู้สึก ที่ลูกหมา มีตั้งแต่แรกเกิดมา คือ การรับความรู้สึกเจ็บปวด การได้กลิ่น ความสามารถรับรู้จากการถูกสัมผัส การรับรู้ความรู้สึกร้อนเย็นก็มีครับ แต่ยังไม่ดีเหมือนในหมาโต
พฤติกรรมที่เราจะสังเกตเห็น เมื่อลูกหมาออกมาใหม่ พอมันพ้นออกจากช่องคลอดของแม่ปั๊บ คือ มันจะนิ่งๆ ก่อนนะครับ ในขณะนั้นแม่หมา จะเริ่มทำหน้าที่ ในการดูแลลูกของมันเป็นครั้งแรก ที่ได้สัมผัสตัวลูก คือ การเลียตัว และกัดถุงน้ำคร่ำให้ลูกหมา และเมื่อกัดถุงน้ำคร่ำแตก ลูกหมาถูกเลีย มันจะเริ่มขยับตัว และเริ่มหายใจ ยิ่งขยับ แม่ยิ่งเลีย ผมเคยสังเกตดูครับ เวลาที่หมาคลอดลูกออกมา ถ้ามีตัวที่ตาย กับตัวที่เป็นอยู่ด้วยกัน แม่หมาจะสนใจเลียลูกตัวที่มีชีวิต มากกว่านะครับ เพราะถ้ามันยิ่งเลียแล้ว ลูกหมายิ่งขยับ มันเหมือนเป็นการกระตุ้นให้แม่ยิ่งสนใจ ตัวที่ออกมาแล้วไม่แข็งแรง ไม่เคลื่อนไหว จึงมักจะเสียชีวิตได้ เมื่อแม่หมาไม่ดูแล ไม่กก ไม่เลีย ลูกหมาจะหายใจไม่ดี เพราะไม่มีการกระตุ้น ที่จะทำให้เกิดการขยับตัวของกล้ามเนื้อ ที่ควบคุมการหายใจ ในระยะแรกสุด เมื่อการหายใจไม่ด ีประกอบกับการที่แม่หมาไม่กก จะทำให้ลูกหมาที่ไม่แข็งแรง มีระดับอุณหภูมิร่างกายที่ต่ำลง ตัวเย็นและค่อยๆ หายใจช้าลง จนไม่หายใจ ในที่สุด เพราะฉนั้น เมื่อท่านเฝ้าแม่หมาออกลูก ต้องสังเกตเป็นระยะครับ เมื่อเราพบว่า มีลูกหมา ที่แม่หมาไม่สนใจที่จะกกแน่ๆ ให้รีบเอาออกมากกไฟ เพื่อที่จะ ทำให้ตัวของลูกหมาอุ่น และต้องพยายามจับให้กินนม เพราะการกินนม จะทำให้ลูกหมา มีขบวนการสันดาปพลังงาน ร่างกายจะอุ่นขึ้น และมีแรง สมมุติว่า ท่านประสบความสำเร็จในการเพาะพันธุ์ ได้ลูกหมาที่มีร่างกายแข็งแรงออกมาทุกตัว เราจะพบว่า เมื่อแรกเริ่ม ที่เกิดมาใหม่ ลูกหมาที่เกิดในครอกเดียวกัน มันจะคลานมานอนใกล้ๆ กัน เพื่ออะไรรู้ไหมครับ เพื่อที่ร่างกายของเค้าจะได้อุ่นไงครับ นอกจากนี้ เราจะพบว่า ลูกหมาสามารถกลิ้งตัวไปยังบริเวณที่มันรู้สึกว่า อุ่นได้ เช่นที่บริเวณช่องท้องช่วงที่มีเต้านมของแม่หมา และบริเวณนั้นจะเป็นจุดเริ่ม ที่ทำให้เกิดการดูดนม เป็นครั้งแรก แปลกนะครับ

สัญชาติญาณ ที่ธรรมชาติสร้างให้ เพื่อการมีชีวิตอยู่รอด สร้างมาดีมาก เราจะพบว่า ลูกหมามีความสามารถในการดูด เมื่อมันสัมผัสกับสิ่งที่อุ่น และนุ่มๆ ที่ยื่นเข้ามาที่ปาก ไม่เหมือนคนนะครับที่ต้องอาศัยแม่ป้อน ลูกหมาจะเก่งเรื่องนี้มากกว่าเยอะ กลิ้งมาจนได้กิน พฤติกรรมที่ดีอีกอย่างครับ ที่เราต้องเห็นใน ลูกหมาที่ปกติ คือ เมื่อออกมาหายใจ หายคอ ได้ปกติแล้ว มันจะเริ่มกินเริ่มดูดนมจากแม่ เพราะถ้าออกมาหายใจได้ดีจริง แต่ไม่กินนมนี่ ก็จะมีปัญหาตามแน่นอน เพราะลูกหมาจะเหี่ยวลงๆ และจะตายในไม่ช้า กลุ่มอาการที่เรารู้จักดีครับ ที่ฝรั่งเค้าเรียกว่า Fadding syndrome แปลเป็นไทย คือ กลุ่มอาการเหี่ยวเฉาตายในลูกหมา
ลูกหมาที่อยู่ในช่วงอายุนี้ จะไม่มีพฤติกรรมทางสังคมนะครับ เพราะมันยังไม่พร้อมที่จะเข้าสังคมกับใคร อาศัยกินและนอน อย่าลืมครับว่า หูก็ยังไม่ได้ยิน ตาก็ยังไม่ลืม อาศัยจมูกดมกลิ่น ได้อาศัยการรับความร้อนความหนาว ความเจ็บปวดเท่านั้น เรื่องของพฤติกรรมการเคลื่อนไหว ที่เราพอจะต้องสังเกตเห็นนะครับ คือ ลูกหมาในช่วงนี้ จะไม่สามารถเดิน หรือวิ่งได้นะครับ เรียกว่า ยังไม่สามารถยืนได้เลยครับ ใช้วิธีการเคลื่อนที่ โดยการขยับกล้ามเนื้อ ลำตัว การกลิ้งตัวครับ พฤติกรรม ที่แสดงถึงภาวะที่ไม่ปกติของลูกหมา ในเรื่องการเคลื่อนไหว คือ มันเอาแต่นอนนิ่ง ไม่ขยับตัว ตัวเย็น ไม่มีแรง อาการอย่างนี้ ไม่ดีน่าเป็นห่วง
เรื่องพฤติกรรมการขับถ่าย ในช่วงนี้เราจะพบว่า แม่หมาทำหน้าที่ของเค้าเลยครับ หลังจากที่นอนนิ่งๆ ให้นมลูกกิน มันจะเริ่มเลียท้องเลียก้นลูก เพื่อกระตุ้นให้ลูกขับถ่าย เลียแล้ว มันจะกินเข้าไปนะครับ เรียกว่า เราไปดูจะไม่พบอึหรือฉี่ของลูกหมาให้เห็น


พฤติกรรมลูกหมาในระยะ 2-3 สัปดาห์
ช่วงเรียกว่า เป็นช่วงที่ลูกหมา เริ่มมีความเปลี่ยนเกิดขึ้นแล้วครับ เริ่มมีการพัฒนาของระบบประสาทตา ตาจะเริ่มเปิด เมื่อลูกหมาอายุได้ 12-14 วัน หูจะเริ่มได้ยิน เมื่ออายุได้ 20 วัน พฤติกรรมการเคลื่อนที่ของลูกหมา ที่เราสังเกตได้ คือ มันเริ่มที่จะยืน เดิน การเดินอาจจะยังไม่ดี พอเดินไปไม่ไกลก็จะล้ม หรือกลิ้งตัวในช่วงแรกๆ หางเริ่มกระดิกได้ ฟันชุดแรกสุดเริ่มขึ้น หมาจะกินนมตลอด ตอนนี้ เราจะเริ่มสังเกตเห็นว่า มันจะเริ่มมีการถ่ายอุจจาระกันเรี่ยราดแล้วด้วยครับ เพราะแม่หมา เริ่มที่จะไม่เลียเก็บแล้ว เมื่อสังเกตให้ดีจะพบว่า เพียงส่วนใดส่วนหนึ่งของคอกคลอดเท่านั้นครับ ที่มีการขับถ่ายไว้ เรียกว่า หมามันก็เริ่มรู้นะครับว่า ตรงไหนอึได้
ระยะนี้ ถ้าหมาเราไม่ลืมตา เปลือกตาไม่เปิดออก ต้องพาไปพบหมอแล้วครับ เพราะบางตัวมีการอักเสบอยู่ภายใน หรือที่หนังตาด้านใน ช่วงนี้ เป็นช่วงที่ลูกหมา กินนมมากครับ แม่หมาจะต้องได้รับการเลี้ยงดูอย่างดี ให้กินอาหารสูตรแม่เลี้ยงลูก ในปริมาณที่กำหนดไว้อย่างเคร่งครัด ไม่จำเป็นต้องเสริมแคลเซียมนะครับ เพราะในอาหารมีแคลเซียมที่มากพออยู่แล้ว


พฤติกรรมลูกหมาในช่วงที่อายุ 3-12 สัปดาห์
ช่วงนี้เป็นช่วงที่ลูกหมา จะมีการเปลี่ยนแปลงด้านพฤติกรรมมากครับ เพราะเป็นช่วงที่ ลูกสุนัขเริ่มที่จะออกมานอกรัง เริ่มวิ่งได้ เริ่มซ่าส์ครับ การเลี้ยงหมาช่วงนี้ จะเหนื่อยที่สุด เพราะ ทั้งกินเก่ง ทั้งอึเยอะ วิ่งเล่นตลอด บางที ถ้าเราไม่มีการรักษาความสะอาดที่ดีพอ ลูกหมาจะเละมากครับ ช่วงนี้จะเริ่มมีพฤติกรรมาทางสังคม มันจะเริ่มเล่นกันในระหว่างพี่น้อง มีการแย่งกันกิน มีการเห่าร้อง เริ่มเรียนรู้ว่า สิ่งไหนที่เป็นมิตร และสิ่งไหนที่เป็นอันตราย ลองสังเกตได้ครับ ถ้าเราเป็นคนให้อาหาร พอถึงเวลา ลูกหมาเห็นเราก็จะวิ่งรี่เข้ามาห้อมล้อม แต่ถ้าเกิดในขณะนั้นมีการกระตุ้นทำให้เกิดเสียงดัง อาจจะมีใครมาจุดปะทัดดัง ปังใหญ่ รับรองได้ครับว่า เจ้าลูกหมาทั้งหลาย จะวิ่งหนีกัน อาจจะวิ่งเข้ามาหาเรา ซุกที่ขา หรือวิ่งหนีเข้าคอกที่เคยนอน มันจะอยู่ในนั้น จนกว่าจะมีความแน่ใจว่า ปลอดภัยจริงๆ
การสอนหมา ให้รู้จักระเบียบวินัย เราสามารถสอนได้ ในช่วงอายุนี้เลยนะครับ เรื่องเวลาที่กินอาหาร สถานที่กินอาหาร ชนิดอาหาร เริ่มที่จุดนี้ทั้งหมด เรื่องการจัดระเบียบ การอึฉี่ ต้องพาไปในสถานที่ที่เราต้องการ โดยต้องพาไปครั้งแรกตอนเช้าตรู่ จากนั้นคือ ต้องปล่อยออกทุกครั้งหลังจากกินอาหาร และครั้งสุดท้าย คือ ก่อนนอน ถ้าทำได้อย่างนี้ เพียง 5-7 วัน ลูกหมาเราจะรู้แล้วครับ ว่า เค้าจะต้องขับถ่ายที่ไหน ช่วงอายุขนาดนี้ เป็นช่วงที่มีการคาบลูกหมา มากที่สุดด้วยครับ เราต้องเริ่มตั้งชื่อ ชื่อที่ตั้งให้หมา ควรเป็นชื่อที่ไม่เกินสองพยางค์ เป็นชื่อที่ฟังแล้วมีเสียงที่ชัดเจน ไม่เอาชื่อยาว และเสียงฮึมฮัมในคอนะครับ หมามันสับสน
พฤติกรรม ที่เป็นปกติมากอีกอย่างหนึ่ง ในช่วงนี้ คือ การใช้ปาก ใช้ฟันกัดคาบของ หรือมือของเรา เรื่องนี้ผมได้รับคำปรึกษามากที่สุด เนื่องจากท่านเจ้าของ ไม่เข้าใจว่า หมาในอายุขนาดนี้ จะเริ่มมีพัฒนาการ เรื่องการใช้ปากคาบของ ปากของหมาเมื่อเทียบได้กับอวัยวะของมนุษย์ คือ มือนะครับ การฝึกจับของ การฉวยของเรา ก็จะพบว่า เป็นพฤติกรรม ที่สำคัญในเด็กเหมือนกัน ถ้าหมาไม่มีพฤติกรรมอันนี้ซิครับแปลก เราจะต้องมีความอดทนนิดหน่อยครับ เดี๋ยวพฤติกรรมอันนี้จะค่อย ๆ ลดลงตามลำดับ ระยะนี้ เรื่องการเคลื่อนไหว การวิ่งเล่น การกระโดด หมาจะต้องทำได้อย่างปกตินะครับ เมื่อตอนที่เราไปเลือกซื้อหมา เราต้องพาหมาที่เราจะซื้อ จูงเดิน จูงวิ่ง ลองทดสอบให้กระโดด ถ้าหมาแสดงท่าทางที่ปกติ ถึงซื้อมา ถ้าไปเลือกดู แล้วพบว่า หมาตัวที่เราจะซื้อ เดินผิดปกติ กระเผลก ขาหน้าโก่ง ขาหลังถ่าง หรือเวลาวิ่ง เอาแต่กระโดดแบบกระต่าย อย่าซื้อเด็ดขาดครับ


พฤติกรรมของหมา ในช่วงวัยรุ่นจนถึงวัยเจริญพันธุ์
เริ่มในช่วงเวลาที่หลากหลายกันไปครับ เพราะเนื่องจาก หมามีหลายสายพันธุ์ตั้งแต่ขนาดเล็กจิ๋ว จนถึงสายพันธุ์ที่มีขนาดใหญ่มาก อายุของหมาในช่วงนี้ คือ ตั้งแต่
5 เดือน เป็นต้นไป หมาในช่วงนี้มีพฤติกรรมอย่างไร? เรื่องที่เรามักจะพบ ในช่วงนี้ คือ เรื่องของพฤติกรรม ที่เริ่มแสดงความเป็นใหญ่ในบ้าน ถ้าเราเลี้ยงหมาหลายตัวที่มีอายุเท่าๆ กัน ในช่วงนี้มันจะเริ่มมี หมาหัวโจกครับ สังเกตว่า ตัวไหนที่เป็นหัวโจกดูง่ายครับ ตัวที่กินก่อน กินเยอะ กินชามข้าวของตัวอื่น เวลาเราเรียกจะรีบวิ่งมาก่อน พอมาถึงจะเอาตัวเบียดหมาตัวอื่น ให้ตกขอบไป หรือถ้าดูง่ายมากๆ คือ ตัวที่ขู่หมาตัวอื่นจนหงอนั่นล่ะครับ มันเป็นใหญ่ที่สุด
พฤติกรรมที่มีอีก ในช่วงนี้ คือ การประกาศอาณาเขต หมาจะเริ่มมีพื้นที่ส่วนตัวของมัน เช่น บางตัวจะนอนที่ใต้ตู้ ไม่ยอมให้ตัวอื่นเข้ามาตรงบริเวณนี้ บางตัวอาจจะเป็นในครัว บางตัวก็ในห้องนอนเรา พฤติกรรมที่เราจะพบได้อีกในช่วงนี้ คือ การที่หมาเราขึ้นขี่ ทำท่าผสมพันธุ์กัน โดยที่ไม่ได้เป็นสัดนะครับ เราจะพบว่า บางตัวทำท่าผสมพันธุ์แม้แต่ขาเรา บางตัวขึ้นขี่ผิดท่าผิดทาง อันนี้ก็เป็นเรื่องที่เราจะพบได้เช่นกัน อย่าตกใจครับ จัดการจับให้เค้าหยุด และดุ ก็จะช่วยให้หมาสงบลงได้ครับ ที่นี้ พอเริ่มมีการพัฒนาจากหมาวัยรุ่นเข้าสู่ในวัยเจริญพันธุ์ พฤติกรรม ที่เราจะพบได้ในหมาตัวผู้ คือ การที่เริ่มยกขาฉี่ เป็นการปล่อยฉี่ออกมา ในปริมาณที่ไม่มาก จะปล่อยในตำแหน่ง เช่น เสา ขาเก้าอี้ ขาโต๊ะ ประตูบ้าน โดยส่วนใหญ่จะเป็นวัตถุที่ตั้งฉากกับพื้นดินครับ ในหมาตัวเมีย เมื่อถึงวัยเจริญพันธุ์ สิ่งที่เราสังเกตได้ คือ หมาก็จะเริ่มมีอาการเป็นสัด มีการเปลี่ยนแปลงที่อวัยวะเพศ มีเลือดไหลออกมาจากอวัยวะเพศ มีหมาตัวผู้ เริ่มเข้ามาเกาะแกะรายล้อม นี่ล่ะครับ หมามันพร้อมที่จะผสมพันธุ์แน่ ในช่วงนี้ หมาจะเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงที่ฟันด้วยครับ ฟันแท้ที่แข็งแกร่งจะเริ่มขึ้น แทนที่ฟันน้ำนม จนเต็มเมื่ออายุได้ 12 เดือน ในช่วงนี้ หมาจะรู้ตัวเองครับว่า มันเริ่มมีความแข็งแกร่ง มีอาวุธ คือ ฟันและเขี้ยว มีกล้ามเนื้อที่แข็งแรง หมาตัวผู้ จึงเริ่มมีพฤติกรรมความก้าวร้าวให้เห็นได้ เช่น การกัดกันระหว่างหมาตัวผู้ การที่เริ่มแสดงพฤติกรรมการกัด เพื่อปกป้องสิ่งของ หรืออาณาเขต จากคนแปลกหน้า การเห่าขู่กรรโชกเพื่อขับไล่ นี่คือ พฤติกรรมที่ต้องเป็นในหมาทุกตัวนะครับ

 

Copyright 2002 by bokbokclub.cjb.net All rights reserved Email K_chananyu@yahoo.com